ทัวร์อิตาลี GRAND ITALY (Cinque Terre)

ทัวร์อิตาลี GRAND ITALY (Cinque Terre) - บริษัท เวิลด์ลุค จำกัด
รหัสทัวร์
039-02132
วันที่เดินทาง
ธ.ค.67
ช่วงเวลา
9 วัน 6 คืน
เดินทางโดย
Qatar Airways (QR)

ไฮไลท์

  • มหาวิหารแห่งมิลาน – วิตโตรีโอ เอมานูเอล – เวโรน่า – บ้านโรมิโอ&จูเลียต – เวนิส
  • เกาะเวนิส – ฟลอเรนซ์ – ดูโอโม่แห่งฟลอเรนซ์ – รูปแกะสลักเดวิด
  • ฟลอเรนซ์ – เลวานโต – หมู่บ้านชิงเคว่ เตเร่ – ลาสปีเซีย – ปิซ่า
  • หอเอนปิซ่า – เซียน่า – เปียซซ่า เดล คัมโป – มหาวิหารเซียน่า – ทิโวลี
  • เมืองเนเปิลส์ - เปียสซา เดล เพิลบิสซิโต - ถ่ายภาพคู่กับประตูชัยคอนสแตนติน
  • นครวาติกัน – วิหารแพนเธออน – น้ำพุเทรวี่  –  บันไดสเปน
ราคาเริ่มต้น
126,888 บาท

แผนการเดินทาง

16.30 น.  คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 6 เคาน์เตอร์ M สายการบินการ์ต้า แอร์เวย์ QR เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง

20.00 น.   ออกเดินทางสู่ มิลาน โดยสายการบินการ์ต้า แอร์เวย์สายการบินระดับ 5 ดาว ด้วยเที่ยวบินที่ QR 835 / QR123 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศการ์ต้า ä บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน

07.10 น.  เดินทางถึง สนามบินมาลเพนซ่ามิลาน หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว รถโค้ชปรับอากาศมาตรฐานยุโรปนำท่านเดินทางสู่ใจกลางเมือง นำท่านชม มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่า  ดูโอโม่ ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง แทบจะมีดูโอโม่ทุกเมืองที่สำคัญๆ เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของคนในเมือง ดูโอโม่ที่เมืองนี้สร้างในสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอับดับ 2 รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงวาติกัน มหาวิหารแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1386 แต่มาแล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้นคือในปี ค.ศ.1813 ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเล่นว่า มหาวิหารเม่น มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่าง ๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูปยอดที่สูงที่สุดประดับด้วยรูปสลักพระแม่มาเรียสูง 4 เมตร หุ้มด้วยทองคำทั้งองค์ มีชื่อเรียกว่า มาดอนนิน่า ด้านหน้ามหาวิหารจะเป็นลานกว้าง เรียกว่า ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม เป็นศูนย์กลางเป็นแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย ด้านข้างของจัตุรัสหน้าดูโอโม่ทางทิศเหนือ จะเห็นทางเข้า แกลเลอเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าที่หรูหราอลังการแห่งเมืองมิลาน ให้ท่านอิสระในการช้อปปิ้งภายในห้างเป็นโดมแก้ว มีห้างร้านต่าง ๆ มากมาย  คล้ายกับอีกแห่งที่เมืองเนเปิลส์ ทะลุออกมาอีกด้านจะเจอโรงอุปรากรชื่อก้องโลก ลา สกาล่า แห่งเมืองมิลาน สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1776-1778 ด้านหน้าลานสกาล่า เรียกว่า ปิอาซซ่า เดลลา สกาล่า มีรูปปั้นของศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่งของโลก คือลีโอนาร์โด ดาวินชี่

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 1)

บ่าย เดินทางสู่ เวโรน่า เป็นเมืองที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับสองในแคว้นเวเนโต้ รองจากเวนิส เวโรน่าได้รับสมญานามว่า "LITTLE ROMAN" เพราะยังคงสภาพสิ่งก่อสร้างจากสมัยโรมันไว้อย่างสมบูรณ์ และที่ทำให้เมืองเวโรน่าเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปนั้น เป็นเพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ ในบทละครเรื่องโรมิโอกับจูเลียตของเช็คสเปียร์ล้วนเกิดขึ้นในเมืองหนึ่งของอิตาลีที่ชื่อว่าเวโรน่า นำท่านชม บ้านโรมิโอ&จูเลียต ระเบียงหินอ่อนเล็ก ๆ ที่สมมติเป็นฉากที่จูเลียตเคยยืนอยู่โดยมีโรมิโอมาคอยเฝ้าขอความรักอยู่ด้านล่าง ซึ่งหน้าบ้านจูเลียตปัจจุบันคือร้าน Armani ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไปจับที่หน้าอกของรูปปั้นจูเลียต นอกจากนี้ภายในบริเวณกำแพงบ้านจูเลียตยังมีการเขียนแสดงความรักกันมากมายจนแทบไม่เห็นสีกำแพงเดิม

ได้เวลานัดหมายนำท่านเดินทางสู่  เวนิส เมืองหลวงแห่งแคว้นเวเนโต้ เจ้าของฉายา ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก เวนิส หรือ เวเนเซีย จุดหมายปลางทางสุดโรแมนติก แห่งแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวน 118 เกาะ เข้าด้วยกันในบริเวณ ทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริกในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ด้วยความสวยงามและความน่าอยู่ของบ้านเมืองทำให้เวนิสเป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมาย ตั้งแต่ เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่าง ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก และที่สำคัญองค์การยูเนสโกยกให้เวนิสเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลก

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 2)

พักค้างคืน ณ Belstay Venezia Mestre หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)   

นำท่านเดินทางไปยัง ท่าเรือ ตรอนเชโต้ จากนั้นลงเรือเหมาลำส่วนตัวเดินทางสู่ เกาะเวนิส (ระยะเวลาในการนั่งเรือ ประมาณ 30 นาที)   เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” เป็นเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เรือจอดเทียบท่าที่ ท่าเรือซานมาร์โก (เซนต์มาร์ก) จากนั้นนำท่านเดินเท้าไปยัง จัตุรัสซานมาร์โก อันเป็นศูนย์กลางของนครเวนิส ผ่านชม สะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง พระราชวังดอจ กับ เรือนจำโบราณ อันเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคนั้นอีกด้วย ชม โบสถ์เซนต์มาร์ก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ สำหรับนักท่องเที่ยวนั่งพักผ่อนหย่อนใจกับร้านกาแฟชื่อดังหรือเลือกช้อปปิ้งสินค้าของเวนิสตามร้านต่าง ๆ อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบและคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก  ถึงเวลานัดหมายคณะพร้อมกันที่จุดนัดหมาย นำท่านลงเรือเดินทางเดินทางกลับสู่ท่าเรือตรอนเชโต้

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร   (มื้อที่ 4)

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ฟลอเรนซ์ เมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน ที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับประวัติศาสตร์ของยุโรปเพราะเป็นแหล่งกำเนิดศิลปะ วัฒนธรรมเรอเนสซองส์ และเป็นเมืองที่ไม่อนุญาตให้รถโค้ชเข้าไปในเขตเมืองเก่า นำชม มหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร่ หรือ ดูโอโม่แห่งฟลอเรนซ์ เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากด้วยการใช้หินอ่อนสีชมพู ขาวและเขียวในการก่อสร้าง ข้างๆ มหาวิหารมีหอระฆังสูง ออกแบบตกแต่งด้วยหินอ่อนสามสีเช่นเดียวกับมหาวิหาร จัตุรัสเดลลา ซินญอเรีย บริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองมาก่อน และเดิมเป็นที่ตั้ง รูปแกะสลักเดวิด ของแท้ผลงานของไมเคิลแองเจโลอันลือชื่อ แต่ในปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะอะคาเดมี อีกด้านหนึ่งของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อุฟฟิชี ที่นี่คือสถานที่เก็บงานฝีมือศิลปินเอกอิตาเลียนในสกุลช่างฟลอเรนซ์ที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 5)

พักค้างคืน ณ Best Western Plus CHC Florence  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 6)

จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังเมือง เลวานโต Levanto เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความสวยงามของภูมิภาคลิกูเลีย ที่สำคัญเมืองนี้เป็นที่พำนักของขุนนางคนสำคัญตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน ทำให้มีวิลล่าสวย ๆ ตั้งเรียงรายอยู่บนเนินเขาพร้อมกันนี้ยังเป็นเมืองที่ปลูกต้นมะกอกคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีก็ว่าได้ จากนั้นนำท่านเปลี่ยนการเดินทางด้วยรถไฟสู่เส้นทางการท่องเที่ยวอันสุดแสนโรแมนติก

เดินทางเข้าไปยัง ชิงเคว เตเร่ ซึ่งเป็นดินแดนทั้งห้าประกอบด้วยหมู่บ้านชาวประมงที่สร้างอยู่ริมฝั่งทะเล โดยหมู่บ้านทั้งห้าต่างสร้างอยู่บนหน้าผาริมชายฝั่ง บ้านเรือนต่าง ๆ มีการทาสีที่ฉูดฉาดสวยงามแปลกตาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว   เป็นเมืองเก่าแก่ซึ่งก่อตั้งมากว่า 1,300 ปีที่แล้ว ชิงเคว เตเร่ ตั้งอยู่ในแคว้นลิกูเรีย (Liguria) ซึ่งถือว่าเป็นแคว้นที่เป็นริเวียร่าของประเทศอิตาลีเลยก็ว่าได้  จากนั้นนำท่านชมความงามของ หมู่บ้านมานาโรล่า ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยและขึ้นชื่อ จากนั้นนำท่านไปบันทึกภาพความประทับใจ ณ  จุดชมวิวของหมู่บ้านมานาโรล่า ซึ่งจะมีหมู่อาคารที่มีสีสันหลากหลายเฉดสีซึ่งสวยงามและน่าประทับใจยิ่งนัก อิสระให้ท่านได้เดินชมความสวยงามพร้อมเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7)

บ่าย  จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านริโอแมกจินยอเร  หมู่บ้านสวยอีกหมู่บ้านหนึ่งของ ชิงเคว เตเร่ ตั้งอยู่ในโตรกของหน้าผาอาคารคารบ้านเรือนต่างๆ ที่มีสีสันหลากหลายเฉดสีสวยงามและขึ้นชื่อในเรื่องไวน์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลาสปีเซีย เมืองใหญ่อันดับสองของแค้วนลิกูเลีย เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ ด้วยพื้นที่ริมฝั่งทะเลที่เป็นอ่าวเหมาะสำหรับหลบพายุในช่วงที่คลื่นลมแรงทำให้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางการเดินเรือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากนั้นนำท่านความสวยงามของเมืองจนได้เวลานัดหมาย ออกเดินทางสู่ เมืองปิซ่า

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8)

พักค้างคืน Galilei hotel  ณ หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  (มื้อที่ 9)

นำท่านนั่งรถบัสท้องถิ่นประจำเมืองเข้าสู่ ศูนย์กลางของเมืองที่ จัตุรัสแคมโป สถานที่ตั้งของอาคารแบ็บติสตรีทรงกลม, มหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันเนสก์ และ หอระฆัง ที่เอนเอียงเพราะความผิดพลาดในการก่อสร้าง จนทำให้ได้ชื่อว่า หอเอนปิซ่า และนับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกชิ้นหนึ่งของโลก อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย หอเอนเมืองปิซ่าตั้งอยู่ที่เมืองปิซ่า ในจัตุรัสเปียซซาเดล ดูโอโม หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) หอเอนเมืองปิซ่าถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยหอเอนเมืองปิซ่ายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่มทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี นำท่านสู่ เมืองเซียน่า หรือที่ชาวอิตาลีเรียกว่า ซิเอน่าเป็นอีกเมืองที่มีความสวยงามเปี่ยมไปด้วยมนต์สเน่ห์อีกเมืองของแคว้นทัสคานี

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10)

บ่าย  นำท่านเทียวชม เมืองเชียน่า เมืองนี้เป็นเมืองค้าขายแข่งกับฟลอเรนซ์จนต้องมีหารทำสงคราวกันอยู่บ่อยครั้ง ให้ท่านได้ถ่ายรูปในย่านเมืองเก่าของเซียน่าหรือที่เรียกกันว่า เปียซซ่า เดล คัมโป ซึ่งเป็นลานกว้างรูปทรงคล้ายเปลือกหอยอยู่หน้าศาลาว่าการ จัสตุรัสแห่งนี้มีการจัดแข่งม้า Palio ทุกปี เป็นการแข่งม้าที่จัดขึ้นปีละสองครั้งในวันที่ 2 กรกฎาคม และ 16 สิงหาคม รอบๆจะเป็นร้านค้าและร้านอาหารมากมาย นำท่านชม มหาวิหารเซียน่า จากด้านนอก มหาวิหารแห่งนี้ออกแบบและสร้างเป็นครั้งแรกระหว่างปี ค.ศ. 1215 ถึง ค.ศ. 1263 บนฐานของโบสถ์หลังเดิม แผนผังอาสนวิหารเป็นแบบกางเขนละตินโดยมีส่วนขวางด้านหนึ่งยื่นออกมากว่าปกติ พร้อมกับโดมและหอระฆัง โดมที่ตั้งอยู่บนหอแปดเหลี่ยมมาสร้างเพิ่มโดยจัน โลเรนโซ แบร์นีนี ภายนอกและภายในตกแต่งด้วยแถบหินอ่อนขาวสลับเขียวดำยกเว้นด้านหน้าที่แทรกด้วยหินอ่อนสีชมพูแก่เกือบแดง สีขาวดำเป็นสีสัญลักษณ์ของเมืองเซียนาซึ่งตามตำนานกล่าวว่าเป็นสีของม้าของเซเนียสและอาสเคียสผู้ก่อตั้งเมือง สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองทิโวลี(Tivoli)เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงโรม ที่มีชื่อเสียงด้านเมืองโบราณและวิลล่าพักตากอากาศของชนชั้นสูงในสมัยก่อนของอิตาลีที่สวยงามอลังการและทรงคุณค่าจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO หลายแห่ง

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร (มื้อที่ 11)

พักค้างคืน Villa Adriana Victoria Terme Hotel หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 12)

เดินทางสู่ปอมเปอี เป็นนครโรมันโบราณที่กำเนิดขึ้นช่วง 700 ปี ก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเนเปิลส์ ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ในอดีตเคยเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวโรมัน เพราะติดชายทะเล โดยผู้ที่มีฐานะร่ำรวยนิยมสร้างบ้านพักตากอากาศไว้ที่นี่ เพื่อเข้ามาพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน ปอมเปอีถูกทำลายและถูกฝังใต้เถ้าและหินภูเขาไฟหนา 4 ถึง 6 เมตร จากเหตุภูเขาไฟวิซุเวียสปะทุใน วันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 79 ได้คร่าชีวิตไปกว่า 15,000 คนโดยผู้เสียชีวิตถูกฝังทั้งเป็นจากเถ้าหินภูเขาไฟ นำท่านเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ ปอมเปอี เมืองที่ถูกเถ้าถ่านของภูเขาไฟวิซูเวียสถล่มทับถมทั้งเมือง ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1599 ภายในมีกำแพงที่เต็มไปด้วยภาพวาดและร่องรอยแห่งการจารึกมากมาย ซากศพของผู้คนในยุคโรมันโบราณที่เสียชีวิตในอิริยาบถต่างๆ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13)

นำท่านเดินทางสู่  ซอร์เรนโต้ ซึ่งตั้งอยู่ปลายสุดของอ่าวเนเปิลส์  บ้านเกิดของเอนริโก้ คารูโซ่ นักร้องโอเปร่าชื่อดัง เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดินจนเป็นที่มาของเพลง Come Back to Sorrento อันโด่ง ปัจจุบันซอร์เรนโต้ เป็นเมืองท่องเที่ยวอันสำคัญของอิตาลี มีชายฝั่ง Amalfi ที่เลียบริมทะเลไปตามหน้าผาถึง 50 กิโลเมตรทำให้มีโรงแรมและรีสอร์ทมากมายตั้งเรียงรายอยู่บนหน้าผานี้ นำท่านชม Piazze Tasso เป็นจัตุรัสที่คึกคักและเปิดโล่งตั้งอยู่ริมเมืองเก่า ที่นี่มักจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อไปยัง เนเปิลส์  ซึ่งตั้งอยู่หน้าอ่าวเนเปิลส์เป็นเมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของอิตาลี  เดิมเคยเป็นเมืองอาณานิคมของกรีกโบราณชื่อว่านีอาโปลิส ซึ่งแปลว่าเมืองใหม่ ต่อมาชาวโรมันใช้เป็นเมืองตากอากาศเพราะมีอากาศอบอุ่น  ชาวอิตาลีปัจจุบันเรียกเมืองเนเปิลส์ว่านาโปลี  เป็นเมืองท่าสำคัญในการไปยังเมืองอื่นๆ ทางภาคใต้ของอิตาลี เช่น ปอมเปอี ซอร์เรนโต้ คาปรี หรือเกาะซิซีลี ถือได้ว่าเมืองนาโปลีนั้นเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งของอิตาลีและเมืองท่าเรือที่สำคัญทางตอนใต้ อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าของเรือสำราญท่องเที่ยวในเขตเมดิเตอร์เรเนียนที่สำคัญอีกด้วย

ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 14)

พักค้างคืน ณ Holiday Inn Naples หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 15)

นำท่านชมความสวยงามของ เมืองเนเปิลส์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลีติดกับอ่าวเนเปิลส์ (Naples Bay) กึ่งกลางระหว่างพื้นที่ภูเขาไฟสองแห่ง คือ ภูเขาไฟวิสุเวียส และกัมปีเฟลเกรย์ และยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลีมาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เมืองเนเปิลส์จึงถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะบริเวณใจกลางของเมืองเนเปิลส์ยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นมรดกโลก ในปี 1995 จากนั้นนำท่านสู่ เปียสซา เดล เพิลบิสซิโต (Piazza del Plebiscito) หนึ่งในจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองเนเปิลส์ โดยจัตุรัสนั้นตั้งอยู่ใกล้ๆ กับอ่าวเนเปิลส์ถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าอาคารสถานที่ที่มีความสำคัญของเมืองไม่ว่าจะเป็น พระบรมมหาราชวัง (Royal Palace of Naples) เป็น 1 ใน 4 ของที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์บูร์บง (Bourbon Kings)  หนึ่งในราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดในทวีปยุโรป และฝั่งตรงข้ามเป็นโบสถ์ซานฟรานซิสโก โดยตัวอาคารหลักของโบสถ์มีการสร้างเรียนแบบวิหารแพนทีออนในกรุงโรม

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 16)

บ่าย  นำท่านเดินทางเข้าสู่  กรุงโรม  เมืองหลวงของประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซิโอ มีทั้งความเก่าและความใหม่แทรกอยู่ด้วยกันแทบจะแยกไม่ออก โรมเป็นศูนย์กลางของความเจริญในยุคโบราณ และอาณาจักรโรมันได้แผ่ขยายออกไปทุกทิศทุกทางชนิดที่มีคำกล่าวว่า “ถนนทุกสายมุ่งสู่ กรุงโรม”

จากนั้นคณะแวะถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน จากนั้นให้ ท่านถ่ายภาพคู่กับประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม ” รถโค้ชนำท่านวิ่งผ่านชมสถานที่ต่างๆรอบกรุงโรม ถึงเวลานัดหมายนำท่านนั่งรถผ่านชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่ โรมันฟอรั่ม เข้าสู่ จัตุรัสเวเนเซีย ชม ระเบียงปาลาสโซ่ ที่กล่าวสุนทรพจน์ของมุสโสลินี และ อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 หรือพระบิดาของชาวอิตาลี

ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  (มื้อที่ 17)

พักค้างคืน ณ IH Hotel Roma Z3 หรือเทียบเท่า (คืนที่ 6)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 18)

หลังอาหารเช้านำท่านชม นครวาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นำท่านเข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก “เพียต้า” ผลงานของศิลปินเอก ไมเคิลแองเจโล  เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลี ชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โรมันฟอรั่ม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่  จัตุรัส นาโวน่ จัตุรัสที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อก เรียกได้ว่ามีความยอดเยี่ยมที่สุดของกรุงโรม ประเทศอิตาลี ในอดีตเป็นสนามกีฬาโรมันที่ใช้ต่อสู้ประลองอาวุธกันของผู้เข้าแข่งขันที่จำลองมาจากการต่อสู่ทางทะเล   จัตุรัส นาโวน่าเป็นจัตุรัสที่ได้ชื่อว่าเป็นจัตุรัสที่มีชื่อเสียงที่สุดและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโรมที่เปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศจากนั้น นำท่านชม วิหารแพนเธออน เป็นสถาปัตยกรรมสำคัญ สร้างขึ้น โดยจักรพรรดิมาร์คุส วิบซานิอุส อะกริบปา จุดมุ่งหมายในการสร้างไม่ชัดเจนต่อมามีการสร้างใหม่ในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียน ใน ค.ศ. 126 และซ่อมใหญ่ในปี ค.ศ. 202 โดยจักรพรรดิ์ เซพติมิอุส เซเวรุส และคาราคาลา การก่อสร้างในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียนมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเทวสถานของเทพเจ้าโรมัน 7 องค์หรือเทพแห่งดาวในระบบสุริยะ APOLLOพระอาทิตย์ DIANA พระจันทร์ MARS อังคาร  MERCURY พุธ JUPITER พฤหัส VENUS ศุกร์ SATURN เสาร์ ลักษณะเด่นของตัววิหารคือมีหลังคาทรงกลมและโค้งเป็นครึ่งวงกลมวางอยู่บนเสาหินแกรนิตขนาดมหึมา วิหารมีความสูงถึง 43.3 เมตร รายละเอียดของโดมหลังคาภายในวิหาร รวมถึงโครงสร้างที่แข็งแรงและยืนหยัดมานานกว่าสองพันปี ตั้งแต่คริสต์ษตวรรษที่ 7 เป็นต้นมา วิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นโบสถ์โรมันแคธอริค อุทิศแด่พระแม่มารีและผู้พลีชีพเพื่อศาสนา นำท่านชม น้ำพุเทรวี่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโรม ออกแบบก่อสร้างด้วยหินอ่อนตามสไตล์บารอกที่งดงามอลังการด้วยฝีมือของ นิโคลา ซัลเวีย ว่ากันว่าถ้ามาโรมแล้วไม้ได้เห็นน้ำพุเทรวี่ก็เท่ากับมาไม่ถึงโรม และเมื่อไปถึงแล้วก็ต้องโยนเหรียญไว้เพื่อเป็นที่ระลึกและเป็นเคล็ดว่าจะได้กลับมาเยือนโรมอีก สมควรแก่เวลานำท่านเดินเล่นที่ ย่านบันไดสเปนแหล่งช๊อปปิ้งชื่อดังของกรุงโรม จัตุรัสแห่งนี้ถูกเรียกชื่อตามสถานทูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณนั้น บริเวณแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ชื่อ Francesco de Sanctis เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1723 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1725 สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุมชมกันของหนุ่มสาวผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบนบันไดแห่งนี้

อิสระอาหารกลางวันและอาหารค่ำเพื่อความสะดวกในการช๊อปปิ้งหรือเที่ยวชมความสวยงามของกรุงโรม

17.00 น.    นำท่านเดินทางสู่ สนามบินลีโอนาร์โด้ ดาวินชี่...เพื่อทำการเช็คอิน และทำTAX REFUND

22.30 น.   คณะอำลากรุงโรมประเทศอิตาลีออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร ด้วยเที่ยวบิน  QR 114  / QR 828  แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮา ประเทศการ์ต้า

19.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดีภาพ...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

แผนที่

เงื่อนไข

1)    ค่าตั๋วเครื่องบิน (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน จำนวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกำหนด (น้ำหนักกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 25 กิโลกรัม/กระเป๋าถือขึ้นเครื่องท่านละ 7 กิโลกรัม)

2)     ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ

3)  ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมง/วัน)

4)    ค่า Coach Tax และค่าภาษีผ่านเข้าเมืองต่างๆ

5)     ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการพร้อมอาหารเช้าหรือเทียบเท่า (โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น, ราคาโรงแรมอาจมีการปรับขึ้นหลายเท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับช่วงงานเทศกาล งานแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนย้ายเมือง โดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ)

6)     ค่าอาหารเลิศรสทุกมื้อที่ระบุตามรายการ

7)     ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ

8)     ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบยื่นปกติ (ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าให้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่)

9)     ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์

10)  ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 200,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)

11)   ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%  (เฉพาะค่าบริการ)

1)     ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ

2)     ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ

3)     ค่าน้ำหนักส่วนที่เกิน 25 กิโลกรัม  และมีจำนวนมากกว่า 1 ชิ้น (ระเบียบของสายการบิน)

4)    ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 900 บาท ต่อท่าน

5)    ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 25 ยูโร ต่อท่าน

หมายเหตุ 

1. กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจากการล่าช้า (ดีเลย์) ของทางสายการบิน การนัดหยุดงานหรือการก่อจราจล ภัยธรรมชาติ   รถติด  ทำให้ไม่สามารถกิน-เที่ยวและพักโรงแรมได้ครบถ้วนตามโปรแกรมทัวร์ที่ระบุ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นโดยตรงจากทางสายการบิน และทางบริษัทฯ ไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้นจากทางสายการบิน แต่ทางบริษัทฯ จะคงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าพึงจะได้รับอย่างเต็มความสามารถ

2.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยวในกรณีที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัย โดยจะพยายามให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับท่าน

3.ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการบางอย่างตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสายการบิน สภาพทางการเมือง ภัยธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคิวยาวจนทำให้โปรแกรมต่อไปเสียหาย แต่ยังคงจะรักษา มาตราฐานการบริการ และประโยชน์ของลูกค้าทุกท่านไว้เหมือนเดิม

4.ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ว่าบางส่วนหรือ ทั้งหมด อาทิเช่น พาสปอร์ต, ของมีค่า, กระเป๋าเงิน, กระเป๋าเดินทาง เป็นต้น

** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
126,888 บาท
รหัส 039-02132 ทัวร์อิตาลี GRAND ITALY (Cinque Terre)
ระยะเวลา 9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น 126,888 บาท
เดินทางช่วง ธ.ค.67
เดินทางโดย Qatar Airways (QR)
--------------------------------------
ดูเพิ่มเติม https://worldlooktour.com/tour.php?tour_id=8294
--------------------------------------
ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/824/039-02132.pdf
--------------------------------------
สนใจติดต่อ บริษัท เวิลด์ลุค จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 11/08276
โทร 061-462-6638
LINE ID @worldlook
อีเมล worldlooktravel.th@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode
ติดต่อสำนักงาน
บริษัท เวิลด์ลุค จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 11/08276

74/8 ซอย มีสุวรรณ 3 ขวง พระโขนงเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

จันทร์-เสาร์ 9.00-18.00
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา